แพมอยากลองปรับดูในแต่ล็อตด้วย เพราะทำน้อยกับทำมาก จะได้ไม่เหมือนกัน ปรับวิธีการผลิตให้ทำในสเกลใหญ่ได้ง่าย เพราะสูตรของแพมจะเข้มข้นเกิน พอทำเยอะๆ เลยทำยาก
สูตรของเราจะมีการปรับปรุงอยู่เสมอ ด้วยสารที่คัดเลือกจากเจ้าใหม่ๆ ที่ถึงจะเป็นสารชนิดเดียวกัน ชื่อสารเดียวกัน แต่มีความแตกต่างด้านคุณสมบัติที่ดีกว่า
เนื้อสัมผัส
การที่หนืดหรือข้น ขึ้นกับขนาดโมเลกุล แต่ทั้งสอง คือโมเลกุลเล็กทั้งหมด แต่ถ้าเล็กมากๆ จะเหลวไปเลย สารตัวนี้มีราคาสูงมากๆ ดังนั้นการเปลี่ยนผู้ผลิตสาร จึงทำให้ผลออกมาต่างกัน แต่เราใช้ความเข้มข้นเท่ากันครับ
ถ้าได้ตัวเนื้อเหลวไป = ดีมากๆๆ
ถ้าได้ตัวเนื้อหนืดไป = ดีมาก
แต่ทั้งสองก็อยู่ในกลุ่ม low molecular weight ดังนั้น ทั้งสองตัวนี้คือ ดีมากแล้วครับในการบำรุง ดีกว่าหลายๆ แบรนด์หลายเท่าแล้วครับ

สูตรตั้งต้นของเราคือ สารตัวที่เหลวมากๆ เพราะโมเลกุลเล็กสุด แพงสุด ซึ่งขาดตลาดบ่อยๆ เพราะหลายแบรนด์แทบไม่ใช้กัน เนื่องจาก
1. เหลวเหมือนน้ำเปล่า ลูกค้าได้สินค้าไปนึกว่าน้ำเปล่า แต่จริงๆ คือใช้สาร ปริมาณเท่ากัน
2. ขายยาก เพราะนึกว่าขายน้ำเปล่า แต่จริงๆ คือเห็นผลดีสุด
3. ลูกค้าได้รับของแล้วตกใจ เพราะนึกว่าโดนหลอกขายน้ำเปล่า แต่จริงๆ คือ แพงสุด
4. ปัญหาคำถามเยอะแยะมากมาย
5. เคยใช้แบรนด์อื่นเข้มข้นกว่านี้ แต่จริงๆ คือ เจล carbomer หรือ carbopol ราคาแสนถูก
6. เคยใช้ตัวอื่นๆ แบรนด์อื่นไม่มีที่ไหนเป็นแบบนี้ เซรั่มมันต้องเข้มข้นต้องหนืดๆ
7. ทาแล้วไม่รู้สึกอะไรเลย แต่จริงแล้ว คือ โมเลกุลเล็กซึมเร็วและหมดจด
8. ใช้แบรนด์อื่นดีกว่า แบรนด์นี้ขายน้ำเปล่า ไม่เข้มข้นเลย แต่จริงแล้ว คือ ความเข้มข้นไม่ได้วัดที่เนื้อเข้มข้น
เพราะเพียงเติม thickener ลงไป เป็นการปรับเนื้อให้เหมาะสม ซึ่งไม่ได้ช่วยบำรุงแต่อย่างใด แต่หากเนื้อข้นก็ซึมเข้มผิวยาก สู้ตัวเหลวๆ ไม่ได้
และเนื่องจากสารมีราคาสูงมาก ดังนั้นเวลาผลิตก็จะมีซัพพลายเออร์หลายเจ้ามาเสนอ อันไหนถูกกว่าและได้ผลลัพธ์ดีเหมือนกันก็จะเอาอันนั้น แต่โมเลกุลจะไม่เท่ากัน เพราะแต่ละเจ้าจะผลิตสารที่ขนาดไม่เท่ากัน

หากคิดว่าการผลิตไม่มีมาตรฐาน
1. ผลิตแบบ batch จะได้เนื้อไม่เท่ากันในแต่ละครั้งอยู่แล้ว เป็นเรื่องปกติของในการอุตสาหกรรม
2. สารที่ใช้ไม่ได้เป็นสารราคาถูกที่จะสั่งเจ้านั้นๆ อยู่ตลอดเวลา ดังนั้นต้องหา source อยู่เสมอ
3. สารเป็นลักษณะพิเศษที่มีหลายระดับโมเลกุล แต่มีชื่อเรียกเดียวกัน คือ Sodium Hyaluronate
4. ถ้าขึ้นเจลด้วย carbomer จะได้เนื้อเหลวเท่ากันๆ เพราะราคาถูกมาก ดังนั้น วิธีการแก้คือ ใช้ตัวหลัก cabomer ผสม Sodium Hyaluronate เพื่อเคลมว่ามีสารตัวนี้อยู่ เพราะ อย. ไม่ได้กำหนด จะใส่น้อยเท่าไร่ก็เคลมได้ แต่พิกไม่ได้เป็นแบบนี้ เพราะพิกเป็น Sodium Hyaluronate 100%
5. แบรนด์ทั่วไป ฝ่ายที่จัดหาวัตถุดิบคือ sourcing บางเจ้าใช้คอนเนคชั่น อาจไม่ได้แหล่งที่ดีที่สุด แต่ง่ายและสะดวกกว่า จึงสั่งเจ้านั้นอยู่เป็นประจำทำให้ได้สินค้าคุณภาพเดิมๆ อยู่ทุกครั้ง
6. เนื่องจากพิกมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ตามหาแหล่งวัตถุดิบที่ดีกว่า และเนื่องจากเครื่องสำอางมีส่วนประกอบที่มากมาย และปรับเปลี่ยนวัตถุดิบในแต่ละเจ้า ก็ทำให้เนื้อครีมมีลักษณะที่แตกต่างกันด้วย

ระยะเวลาบรรจุ
เนื่องจากการบรรจุต้องใช้ระยะเวลานาน ดังนั้น ครีมที่อยู่ก้นถังจะมีความข้นกว่าด้านบนถังเล็กน้อย จึงทำให้ขวดในแต่ละขวดมีความแตกต่างเล็กน้อย

สีของฉลาก กล่อง
เนื้อด้วยสติกเกอร์และกล่องไม่ได้พิมพ์ด้วยระบบ 4 สี หรือ 8 สีแบบทั่วไป แต่พิมพ์ด้วยเทคนิคพิมพ์สีพิเศษ ซึ่งต้องใช้สีที่สั่งมาพิเศษหรือผสมจากแม่สีก่อนเข้ากระบวนการพิมพ์ ทำให้กล่องและฉลากมีความคมชัดสูง แม้ตัวอักษรเจาะขาวที่มีขนาดเล็ก ดังนั้น การพิมพ์ในแต่ละครั้งจะใช้สีคนละชุด คนละล็อตและแม่พิมพ์ที่ผลิตใหม่ในทุกล็อตเพื่อความสะอาดของแม่พิมพ์ และป้องกันสีที่ไม่สม่ำเสมอ สีจึงคลาดคลื่นอยู่ตลอดเวลาและไม่เท่ากันในทุกๆ ครั้ง แต่อย่างไรก็ตามจะมีขอบเขตสีเข้มและสีอ่อนที่ยอมรับได้ เพื่อให้งานพิมพ์มีสีใกล้เคียงกับของเดิมมากที่สุด แม้จะพิมพ์ที่โรงพิพม์เดียวก็ตาม
ในบางครั้งอาจพิมพ์อีกจากโรงพิมพ์หนึ่งในกรณีที่งานพิมพ์อีกโรงมีคิวงานที่น้อยกว่า ซึ่งทำให้พิมพ์ได้เร็วขึ้น แต่สีอาจจะเพี้ยนไปมาก
หรือในบางครั้ง อาจมาจากเทคนิคการพิมพ์อื่นที่ต้องการความรวดเร็วของงานมากกว่า ในขณะที่คุณภาพเท่ากัน