ด้วยปัจจัยของอายุที่มากขึ้น มลภาวะ แสงแดด ทำให้ร่างกายจะสร้างไฮยาลูรอนลดลง นักวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์จึงได้คิดค้น กรดไฮยารูโรนิคสังเคราะห์ เพื่อทดแทนส่วนที่ร่างกายสร้างขึ้น ซึ่งได้นำมาเป็นส่วนผสมหลักของครีมและเซรั่ม แม้กระทั่งเครื่องสำอางอย่าง ลิปสติก เป็นต้น โดยใช้ชื่อสารว่า “Sodium Hyaluronate” ร่วมกับ “โคเอนไซม์คิวเท็น” (Coenzyme Q10) วิตามินซี และสารต้านอนุมูลอิสระอื่นๆ เพื่อใช้บำรุงและแก้ปัญหาต่างๆ ให้กับผิว
- แก้ผิวขาดความสมดุล ผิวแห้ง เป็นขุย หรือหลุดลอกเป็นแผ่นๆ ด้วยคุณสมบัติกักเก็บความชุ่มชื้นในชั้นผิวได้ดีเยี่ยม
- ลดอาการอักเสบของสิวซ่อมแซมผิวที่ถูกทำลาย เร่งกระบวนการฟื้นฟูเซลล์ที่มีผลต่อการหายของแผล
- ลดการสร้างอนุมูลอิสระ และกรองรังสี UV ที่จะทำร้ายผิว
- กรดไฮยาลูรอนิคยังช่วยให้รักษาอาการบาดเจ็บของเซลล์ผิวหนังได้เร็วกว่าเดิม 80% อีกด้วย นั่นหมายความว่าผิวสามารถที่จะสมานและฟื้นฟูตัวเองได้เร็วขึ้น ผลดีอีกข้อนั่นก็คือการช่วยทำให้ผิวดูเต่งตึงขึ้นด้วย (plump effect)
ไฮยาลูรอนจากจุลินทรีย์
เมื่อนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้น จึงมีการสกัด ไฮยาลูโรนิค แอซิด จากเห็ดหูหนูขาวหรือผ่านการเพาะเลี้ยงจุลินทรีย์ขึ้นมา ด้วยประโยชน์ที่มากกว่าดังนี้
- เพื่อทดแทนการสกัดจากหงอนไก่ ที่เสี่ยงต่อการปนเปื้อนของเชื้อ
- การสกัดจากเห็ดหูหนูขาว ยังมีความเป็นธรรมชาติสูงกว่า ปลอดภัยและอ่อนโยนกว่าอีกด้วย
- แต่ที่ดีที่สุด คือจากการเลี้ยงจุลินทรีย์ที่มีความทันสมัยมากกว่า