หมอ กับผู้ผลิตครีม ต่างกันอย่างไร ?

ปัจจุบันมีครีมทั้งส่วนที่ผลิตมาจากผู้ผลิตโดยตรงและจากหมอ ขนาดหมอยังให้มาผลิตครีม ดังนั้นเราจะเชื่อผู้ผลิตหรือจะเชื่อหมอ การ​ผลิตครีม หมอ​ต้องเป็นคนนั่งฟังเราอธิบาย​ สารไหนดี สารไหนไม่ดี เรา​เป็น​คน​เลือก และ​เสนอหมอ หมอ​ไม่ได้​มี​ความ​รู้​ด้วย​เครี่อง​สำอาง​ ต้องเรียนต่อด้านเครื่องสำอาง​

พิก ไม่อาจจำหน่ายสินค้าให้สำหรับคนที่เป็น สิวสเตียรอยด์ เพราะคนกลุ่มนี้ มีแนวโน้มที่จะเป็นสิวอยู่แล้วจากสภาพผิวที่เสียสมดุลไปก่อนหน้า ซึ่งอาจมาใช้ครีมเราทำให้เราเป็นแพะรับบาปได้ ซึ่งเมื่อไปหาหมอ หากคุณ​หมอพูด​บอก​ว่า พิก ทำ​ให้​ผิว​คุณ​พี่​เป็น​สิว​ ถ้า​เป็น​อย่าง​นั้น​ คุณ​หมอเป็นใครถึงจะมากล่าวหากันแบบนี้ เหมือน​เวลา​เรา​กิน​ข้าว​หลาย​ร้าน​ใน​วัน​นึ่ง และ​เรา​จะ​โทษ​ร้าน​สุด​ท้าย​ที่​ทำ​ให้​เรา​ท้อง​เสีย​ใน​วัน​นั้นครับ

ถ้าไม่มีความรู้ ก็อย่าทำเป็นมีความรู้ เรื่องนี้แพมพร้อมที่จะพิสูจน์ทุกสิ่งอย่าง หากคุณต้องการขึ้นศาล เราก็พร้อม พร้อมด้วยคุณหมอที่มากล่าวหา ส่งตรวจหาสารพร้อมหาชื่อเสี่ยง เคาน์เตอร์แบรนด์ยังมีคนแพ้ เขาคืนเงินให้คุณไหม

หน้าที่ของหมอ

หากเราเป็นสิว ส่วนใหญ่มักจะไปพบหมอ หากพูดเป็นภาษาชาวบ้าน “หมอเรียนมาเพื่อเดา” หรือวินิจฉัยจากอาการ มีการจ่ายยาตามสูตรการเรียน ซึ่งไม่ได้ไปผู้ผลิตครีม ครีมที่ผลิตในคลินิคนั้น RD จะเป็นผู้คิดค้นและเสนอสิ่งที่หมอต้องการ เมื่อ RD เสนอสูตรครีมทำการอธิบายว่าสิ่งที่ผลิตไปคืออะไร จากนั้นหมอจึงไปบอกต่อกับคนไข้ สำหรับหมอด้านผิวหนังโดยตรงก็จะเรียนเกี่ยวกับโครงสร้างหน้าที่การทำงาน โรคที่เกี่ยวกับผิว ไม่ได้ศึกษาด้านการผลิตครีมมา จะมีส่วนน้อยที่ศึกษาต่อทางด้านเครื่องสำอาง

หน้าที่ต่อมาของหมอ คือ เลือกเครื่องสำอางที่เหมาะสมกับผิวและครีมที่มีส่วนประกอบตัวยานั้นๆ และเนื่องจากหมอไม่ได้ผลิตครีม จะรู้ได้อย่างไรว่า อะไรในตอนนี้ สารอะไรให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า บางทีสารบำรุงก็ดีกว่าการใช้ยามากหลายเท่า

ครีมส่วนใหญ่ที่จ่ายเพื่อลดสิว

หากอยู่ในตลับแบนๆ บางๆ ที่มีเนื้อครีมเป็นสีขาวทึบ สันนิษฐานได้เลยว่าเป็นครีมสเตียรอยด์ เพราะให้เห็นผลเร็ว คำแนะนำของหมอคือ จำกัดระยะเวลาการใช้ อาจไม่ควรเกิน 1-2 สัปดาห์ เพราะสารชนิดนี้จะส่งผลเสียมากกว่าผลดี
ครีมชนิดนี้ไม่ได้ให้ความชุ่มชื้น ไม่ได้ให้ผิวแข็งแรงเพื่อรักษาสิว เราอาจสังเกตุได้ เพราะการให้ความชุ่มชื้นควรมาในขนาดที่ใหญ่กว่าตลับแบนๆ และไม่ควรทาบางๆ ควรสามารถทาได้เลย และไม่ควรจำกัดระยะเวลาใช้ ควรใช้บำรุงได้
ดังนั้นเราอาจปรึกษาหมอว่า ขอเปลี่ยนเป็นตัวอื่นแทนสเตียรอยด์ได้ไหม
แต่หากเป็นยา อาจจ่ายยาแก้แพ้ แก้ผื่นแดงทั่วไป หากมีสิวมาก อาจเป็นยา retin a ซึ่งมีผลเสียให้ตับทำงานหนัก หรืออาจเป็นยาสเตียรอยด์เลยก็เป็นได้ ปกติจะเม็ดเล็กๆ สีขมพู แต่ใหญ่กว่ายาแก้แพ้ 2 เท่า

RD

RD หรือ Research and Development หมายถึง คนที่พัฒนาสูตร อาจจบสาขาวิชาวิทยาศสตร์เครื่องสำอาง ที่สามารถผลิตเครื่องสำอางทุกชนิด มีความรู้ในส่วนประกอบ สามารถอ่านส่วนประกอบในเครื่องสำอางได้ สามารถรู้ส่วนประกอบได้ดีกว่า รู้ว่าส่วนประกอบไหนที่อ่อนโยนหรือไม่ อันไหนอ่อนโยนกว่า ดูคุณภาพของสินค้าได้

หากต้องการรักษา ให้ไปพบหมอ หากต้องการครีมดี ส่วนประกอบดี ใช้แล้วเห็นผลจริงให้มาหาผู้ผลิตครีม เพราะหมอไม่ได้มีความรู้เรื่องครีม องค์ประกอบหรือขั้นตอนการผลิตครีม

และพิกเน้นที่การบำรุงที่ยั่งยืน เพื่อให้ผิวดีขึ้นอย่างยั่งยืน จึงให้ผลดีกว่าการใช้ยาของหมอ ทั้งในด้านประสิทธิภาพและระยะเวลาที่ดีกว่า